BIGFISH ENTERPRISE LIMITED
24 June 2025

"VPN ยังเอาอยู่ไหม? เมื่อ Zero Trust กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยองค์กร"

ในยุคที่การทำงานแบบรีโมต แอปพลิเคชันย้ายขึ้นคลาวด์ และภัยคุกคามทางไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว การรักษาความปลอดภัยแบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
องค์กรของคุณยังใช้ VPN อยู่หรือไม่? และถึงเวลาหรือยังที่คุณควรเปลี่ยนไปใช้ Zero Trust?

 

VPN ในยุคที่โลกเปลี่ยนไป: ยังเอาอยู่หรือไม่?

VPN (Virtual Private Network) เคยเป็นเครื่องมือหลักในการให้พนักงานเข้าถึงระบบองค์กรจากภายนอก โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ VPN ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดว่า ถ้าเข้ามาในเครือข่ายได้ แสดงว่าไว้ใจได้” ซึ่งในโลกปัจจุบัน แนวคิดนี้อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ปัญหาทั่วไปของ VPN:

  • สิทธิ์เข้าถึงมากเกินไป: ผู้ใช้มักเข้าถึงทรัพยากรได้กว้างเกินจำเป็น
  • หากรหัสผ่านรั่ว = ถูกเจาะง่าย: และสามารถเคลื่อนไหวในระบบได้อิสระ
  • ผู้ใช้ต่างประเทศเจอความล่าช้า: ประสบการณ์ใช้งานไม่ดี
  • ต้องดูแลโครงสร้างพื้นฐานเอง: เช่น gateway และ firewall

นี่คือเหตุผลที่องค์กรจำนวนมากเริ่มหันไปใช้แนวคิด Zero Trust

 

Zero Trust คืออะไร?

Zero Trust คือโมเดลความปลอดภัยยุคใหม่ภายใต้หลักการ: อย่าไว้ใจใครโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกระบบองค์กร”

หลักการสำคัญของ Zero Trust:

  1. ตรวจสอบทุกครั้ง (Verify explicitly): ตรวจสอบตัวตน อุปกรณ์ และบริบททุกการเข้าถึง
  2. ให้สิทธิ์น้อยที่สุด (Least privilege access): จำกัดสิทธิ์เฉพาะที่จำเป็น
  3. คิดว่าระบบถูกเจาะอยู่เสมอ (Assume breach): วางระบบให้พร้อมรับมือเสมอ

ความเสี่ยงหากยังพึ่งพา VPN

องค์กรที่ยังใช้ VPN แบบเดิม อาจเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น:

  • การโจรกรรมรหัสผ่าน: เป็นช่องโหว่ที่พบบ่อยที่สุด
  • การเคลื่อนไหวในระบบโดยไม่ถูกจับ: หากเจาะ VPN ได้
  • ขาดการมองเห็น: ไม่รู้ว่าใครเข้าถึงอะไร เมื่อไหร่
  • ประสบการณ์ใช้งานไม่เสถียร: โดยเฉพาะกับทีมงานต่างประเทศ

 

ทำไมองค์กรจึงหันมาใช้ Zero Trust

องค์กรระดับโลก เช่น Google (BeyondCorp) และ รัฐบาลสหรัฐฯ ต่างเปลี่ยนมาใช้ Zero Trust แล้ว เพราะเหตุผลดังนี้

ข้อดีที่เห็นได้ชัด:

  • ปลอดภัยยิ่งขึ้น: ตรวจสอบและควบคุมทุกการเข้าถึง
  • ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น: ไม่ต้องติดตั้ง VPN
  • สอดคล้องกับการทำงานบน Cloud และแบบรีโมต
  • ตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย: รองรับ audit และ compliance

 

จะเริ่มต้นกับ Zero Trust อย่างไร?

Zero Trust ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ แต่คือแนวทางที่ต้องค่อยๆ วางแผนและดำเนินการ
องค์กรส่วนใหญ่มักเริ่มจากเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว

ขั้นตอนแนะนำ:

  1. วิเคราะห์และเห็นภาพการใช้งานระบบ (Visibility)
  2. เริ่มใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น (MFA)
  3. ตั้งนโยบายเข้าถึงตามบริบท (Context-based access)
  4. แบ่งระบบเป็นส่วนย่อย (Microsegmentation)
  5. ใช้ ZTNA (Zero Trust Network Access) แทน VPN

Zero Trust ไม่ใช่อนาคต — มันคือ “ปัจจุบัน”

Zero Trust ไม่ได้หมายความว่า “ไม่ไว้ใจใครเลย” แต่มันหมายถึง “ให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็น และต้องตรวจสอบตลอดเวลา” ในโลกยุคใหม่ที่ไม่มีขอบเขตระหว่างภายในและภายนอกองค์กรอีกต่อไป VPN เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ Zero Trust คือพัฒนาการที่องค์กรไม่ควรมองข้ามอีกต่อไป