BIGFISH ENTERPRISE LIMITED
22 May 2025

10 แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลคือหัวใจของการทำงานในยุคดิจิทัล การปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าที่เคย เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว และข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลก็เข้มงวดขึ้น องค์กรจึงต้องตื่นตัวและวางกลยุทธ์ในการปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดอย่างจริงจัง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูล ตั้งแต่การปฏิบัติตามข้อกำหนด ไปจนถึงการจัดการเชิงรุกในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ แนวทางเหล่านี้จะช่วยเสริมเกราะให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจากการละเมิดและความเสี่ยงต่าง ๆ

 

  1. กำหนดเป้าหมายของการปกป้องข้อมูล

ก่อนเริ่มโครงการใด ๆ ในการปกป้องข้อมูล ขั้นตอนแรกคือการเข้าใจ "เป้าหมาย" ที่ต้องการให้ชัดเจน

  • รู้ว่าคุณต้องปกป้องข้อมูลใด ระบุข้อมูลสำคัญที่หากรั่วไหลจะกระทบต่อองค์กร และตรวจสอบว่าข้อมูลเหล่านี้อยู่ที่ใด (ซึ่งมักจะกระจายมากกว่าที่คิด)
  • ทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อกำหนดลักษณะของโปรแกรมการปกป้องข้อมูล เช่น งบประมาณ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ทรัพยากรที่มี ฯลฯ เพื่อให้สามารถวางสมดุลระหว่าง "ความปลอดภัย" และ "ประสิทธิภาพการทำงาน"

  1. ทำให้การจำแนกประเภทข้อมูลเป็นอัตโนมัติ

การจำแนกประเภทข้อมูล (Data Classification) เป็นขั้นตอนที่สำคัญแต่มักจะท้าทาย เนื่องจากข้อมูลใหม่ถูกสร้างขึ้นตลอดเวลา

  • ใช้ระบบที่สามารถจำแนกข้อมูลได้ในทุกที่ที่ข้อมูลเคลื่อนที่ (อุปกรณ์ปลายทาง, คลาวด์, เครือข่าย)

ใช้ AI ช่วยในการจำแนกข้อมูลอย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดภาระจากการทำงานด้วยมือ


  1. ใช้แนวทาง Zero Trust ในการควบคุมการเข้าถึง

Zero Trust คือแนวคิดที่ไม่เชื่อถือใครโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะอยู่ภายในหรือภายนอกระบบ ทุกคำขอเข้าถึงต้องมีการยืนยันตัวตนและการอนุญาตก่อน

  • ใช้หลัก Least Privilege Access หรือการเข้าถึงเท่าที่จำเป็นสำหรับหน้าที่การงาน
  • เลือกโซลูชันที่สามารถควบคุมการเข้าถึงโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้เข้าสู่เครือข่ายหลักโดยตรง เพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ lateral movement


  1. รวมศูนย์ระบบ DLP เพื่อการแจ้งเตือนที่แม่นยำ

ระบบป้องกันการสูญหายของข้อมูล (DLP) เป็นหัวใจของการปกป้องข้อมูล

  • เลือก DLP ที่รวมศูนย์ ซึ่งสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนข้อมูลเดียวกันได้อย่างสม่ำเสมอในทุกแพลตฟอร์ม (อุปกรณ์, คลาวด์, เครือข่าย)
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มี DLP แยกกันในแต่ละช่องทาง เพราะอาจทำให้เกิดการแจ้งเตือนซ้ำซ้อน


  1. ป้องกันข้อมูลในช่องทางสำคัญ

เมื่อมี DLP ที่มีประสิทธิภาพแล้ว ให้โฟกัสกับ "ช่องทางการสูญหายของข้อมูล" ที่สำคัญ เช่น:

  • เว็บ/อีเมล – ช่องทางที่พนักงานมักส่งข้อมูลสำคัญออกไปโดยไม่ตั้งใจ
  • SaaS (ผ่าน CASB) – ข้อมูลถูกแชร์ออกไปภายนอกได้ง่าย
  • อุปกรณ์ปลายทาง – เช่น USB, การพิมพ์, การแชร์ผ่านเครือข่าย
  • อุปกรณ์ที่องค์กรไม่จัดการ (BYOD) – ใช้ Browser Isolation เพื่อปกป้องข้อมูลโดยไม่ต้องติดตั้ง Agent
  • SaaS Posture Control (SSPM) – ตรวจสอบการตั้งค่าของแอปคลาวด์อย่าง Microsoft 365 ที่อาจผิดพลาด
  • IaaS Posture Control (DSPM) – ค้นหาข้อมูลสำคัญใน AWS, Azure, Google Cloud และแก้ไขจุดอ่อน


  1. เข้าใจและรักษาการปฏิบัติตามข้อกำหนด (Compliance)

การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน (เช่น GDPR, HIPAA, PCI DSS) เป็นส่วนสำคัญของการปกป้องข้อมูล

  • ทำการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ
  • บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
  • ให้พนักงานได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
  • ใช้เครื่องมือเทคโนโลยี เช่น การเข้ารหัส และระบบติดตามการใช้งาน


  1. วางกลยุทธ์สำหรับอุปกรณ์ BYOD

อุปกรณ์ส่วนตัวที่พนักงานหรือพันธมิตรใช้ (BYOD) อาจเข้าถึงข้อมูลสำคัญขององค์กรได้ แต่ก็ยากต่อการควบคุม

  • หลีกเลี่ยงการใช้ VDI หรือ CASB อย่างเดียว
  • ใช้ Browser Isolation เพื่อสตรีมข้อมูลเป็นภาพ (ไม่ให้โหลด, คัดลอก หรือพิมพ์ได้) และยังสามารถตรวจสอบข้อมูลตามนโยบายได้


  1. ควบคุมความปลอดภัยของคลาวด์ด้วย SSPM และ DSPM

การตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบ SaaS และ IaaS เป็นสาเหตุใหญ่ของการรั่วไหลข้อมูล

  • ใช้ SSPM และ DSPM เพื่อตรวจสอบการตั้งค่าและข้อมูลที่เสี่ยง
  • ตรวจหาช่องโหว่และดำเนินการแก้ไขก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์
  • ควรเลือกโซลูชันที่สามารถสแกนอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับมาตรฐาน (เช่น NIST, ISO, SOC 2)


  1. อย่าลืมการอบรมด้านความปลอดภัยของข้อมูล

โปรแกรมความปลอดภัยจะล้มเหลวได้ถ้าพนักงานไม่เข้าใจหรือไม่ให้ความร่วมมือ

  • พัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมที่เข้าใจง่ายและเน้นคุณค่าของการปกป้องข้อมูล
  • มีเครื่องมือช่วยฝึกสอนในตัว เช่น ระบบแจ้งเตือนผ่าน Slack หรือ Email เมื่อเกิดเหตุการณ์

ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

 

  1. ทำให้งานจัดการเหตุการณ์และขั้นตอนการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ

การจัดการเหตุการณ์ (Incident Management) ต้องมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • ใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ ของเหตุการณ์
  • ลดภาระงานซ้ำ ๆ ของทีม IT และช่วยให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ทันที

เลือกโซลูชันที่สามารถผสานการจัดการเหตุการณ์เข้ากับ Security Service Edge (SSE) ได้อย่างลงตัว

 

สรุป: การปกป้องข้อมูลคือพันธกิจระยะยาว

การปกป้องข้อมูลไม่ใช่งานครั้งเดียวจบ แต่เป็นความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างแนวป้องกันที่ยืดหยุ่น ปรับตัวต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ ได้ และวางรากฐานสู่ความสำเร็จในระยะยาว

การลงทุนในความปลอดภัยของข้อมูลไม่ใช่แค่การลดความเสี่ยงหรือป้องกันการรั่วไหล แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจ รักษาชื่อเสียง และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของคุณด้วย