BIGFISH ENTERPRISE LIMITED
16 May 2025

รายการตรวจสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามในปัจจุบัน ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMBs) จำเป็นต้องละทิ้งความคิดแบบ “แค่นี้ก็พอ” เมื่อต้องรับมือกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ มัลแวร์ ไวรัส แรนซัมแวร์ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง และเทคนิคอาชญากรรมทางไซเบอร์อื่น ๆ ได้พัฒนาไปไกลเกินกว่าที่ซอฟต์แวร์แอนติไวรัสทั่วไปจะรับมือได้ และอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้เทคนิคเหล่านี้ก็กำลังมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจขนาดเล็กโดยตรง

ธุรกิจจึงต้องประเมินจุดยืนด้านความปลอดภัยของตนเองในปัจจุบันว่าเพียงพอหรือไม่ที่จะปกป้องธุรกิจ ข้อมูลสำคัญ ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) และข้อมูลลูกค้าจากการโจมตีที่ซับซ้อนและร้ายแรงได้หรือไม่

เพื่อช่วยคุณในการประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยของคุณ ใช้รายการตรวจสอบ 10 ข้อนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเริ่มต้นบนเส้นทางสู่การปกป้องธุรกิจจากอาชญากรรมไซเบอร์ได้อย่างถูกต้อง

 

  1. ทำการประเมินความปลอดภัยขององค์กร

ตรวจสอบทุกองค์ประกอบในสภาพแวดล้อมไอทีของคุณ ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ ตั้งแต่บัตรพนักงานไปจนถึงเครือข่ายที่ใช้ในการส่งข้อมูล

  • ถามตัวเองว่า: ถ้าพนักงานทำแล็ปท็อปหาย จะมีใครสามารถเข้าสู่ระบบและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายหรือไม่?

  • สำหรับพนักงานที่ทำงานทางไกล สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานเล่นเกม เช็คอีเมล หรือเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านเครื่องของพนักงานได้ง่ายแค่ไหน?

  • คนแปลกหน้าสามารถเดินเข้ามาในบริษัทโดยไม่มีบัตรประจำตัวและเข้าถึงไฟล์ คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และพนักงานได้ง่ายแค่ไหน?

 

  1. ป้องกันการเข้าถึงที่ง่ายเกินไป

คุณมีนโยบายเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ดีหรือไม่?
ใช้นโยบายรหัสผ่านที่รัดกุม กำหนดให้รหัสผ่านต้องแข็งแรง ไม่ซ้ำกัน และเปลี่ยนเป็นประจำ (ทุก 30, 60 หรือ 90 วัน) ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) กับระบบและบัญชีสำคัญ และพิจารณาใช้ไบโอเมตริกซ์ร่วมกับบัตรหรือรหัสผ่านเพื่อเสริมความปลอดภัย

ธุรกิจของคุณมีระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพหรือไม่?
ให้พนักงานสวมบัตรพนักงานเสมอ ใช้อุปกรณ์ล็อกเครื่องแล็ปท็อป ป้องกันไม่ให้พนักงานเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของตน และฝึกอบรมเกี่ยวกับการ "ตามติด" (tailgating) และวิธีที่บุคคลภายนอกอาจพยายามเข้าถึงพื้นที่ปลอดภัย

 

  1. ติดตามข้อมูล

ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสูงสุดของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อลูกค้า บันทึกการเงิน IP หรือสัญญาต่าง ๆ ให้เริ่มจากการระบุแหล่งที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมด (ทั้งเสมือนและจริง) แล้วประเมินว่าข้อมูลเหล่านั้นได้รับการปกป้องดีหรือยัง

ทางที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูลคือการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยปลายทาง (Endpoint Security) เช่น MDR, EDR หรือ XDR ซึ่งสามารถตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์และตอบสนองต่อเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ

 

  1. เข้ารหัสข้อมูลของคุณ

การเข้ารหัสข้อมูลเป็นรากฐานสำคัญของความปลอดภัยไซเบอร์ ทำให้ข้อมูลไม่สามารถถูกอ่าน ถูกขโมย หรือถูกแก้ไขได้ ทั้งขณะจัดเก็บและขณะส่งต่อ

 

  1. ขยายการป้องกันไปยังระบบคลาวด์

หากคุณใช้บริการคลาวด์หรือโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริด อย่าคิดว่าข้อมูลปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์ รวมถึงข้อมูล เวิร์กโหลด คอนเทนเนอร์ เครื่องเสมือน (VM) และ API ได้รับการปกป้องแล้ว

 

  1. ป้องกันการเข้าถึงจากระยะไกลด้วย VPN

สำหรับธุรกิจที่ทำงานแบบไฮบริดหรือทางไกล ควรใช้ VPN ที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องการเข้าถึงจากอุปกรณ์ส่วนตัวหรือเครือข่ายสาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ หรือสนามบิน

 

  1. อัปเดตแพตช์อัตโนมัติ

จากผลสำรวจของ Tetra Defense ปี 2022 พบว่า 57% ของผู้ที่ถูกโจมตีเกิดจากช่องโหว่ที่รู้จักกันดีแต่ไม่ได้ติดตั้งแพตช์ หากคุณยังไม่สามารถอัปเดตอัตโนมัติได้ ให้จัดกระบวนการให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีที่แพตช์ใหม่ออกมา

 

  1. ปกป้องอุปกรณ์ปลายทางของคุณ

อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และเซิร์ฟเวอร์ ควรได้รับการปกป้องด้วยระบบ MDR หรือซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยปลายทาง (เช่น EDR)

 

  1. สร้างแผนตอบสนองต่อเหตุการณ์

แผนตอบสนองต่อเหตุการณ์คือเอกสารที่กำหนดขั้นตอนที่องค์กรควรดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยหรือข้อมูลรั่วไหล ควรสร้างร่วมกับผู้นำทุกฝ่ายในองค์กร และทบทวนบ่อย ๆ รวมถึงปรับปรุงหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง

 

  1. ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยไซเบอร์

พนักงานมีบทบาทสำคัญในการป้องกันองค์กร ควรได้รับการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับการจัดการรหัสผ่าน การระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัยในอุปกรณ์ เช่น ข้อความ แชต อีเมล และสายโทรศัพท์ รวมถึงการระบุการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
ควรสอนเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพด้วย เช่น การล็อกหน้าจอคอมพิวเตอร์ การจัดการเอกสารกระดาษ ฯลฯ